บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

ฟิสิกส์ใหม่


ในยุคของวิทยาศาสตร์เก่า ผู้ที่ได้รับความเชื่อถือมากที่สุดก็คือ นิวตัน  ทฤษฎีของนิวตันได้รับความนิยมชมชอบไปทั่วโลก โดยคิดว่า เป็นทฤษฎีที่เป็นความจริงที่สุดแล้ว ไม่มีทฤษฎีใดๆ มาโค่นล้มทฤษฎีของนิวตันได้

อย่างไรก็ดี เพียงแค่เริ่มต้นต้นศตวรรษที่ 20 เพียง 5 ปีเท่านั้น  ทฤษฎีของนิวตันก็ถูกทฤษฎีสัมพัทธของไอน์สไตน์และกลศาสตร์ควอนตัมของแมกซ์ พลังค์ โค่นล้ม

ในการโค่นล้มทฤษฎีดังกล่าวนั้น  ไม่ได้หมายความว่า ทฤษฎีของนิวตันผิดโดยสิ้นเชิง ทฤษฎีของนิวตันก็ยังเป็นทฤษฏีที่ถูกต้อง แต่เป็นการถูกต้องอย่างมีเงื่อนไข และคับแคบ

ทฤษฎีของนิวตันที่ถูกโค่นล้มลงไป ที่สมควรจะกล่าวถึงในบทความนี้ก็คือ ก็คือ ทฤษฎีเวลา และทฤษฎีแรงโน้มถ่วง 

ทฤษฎีสัมพัทธของไอน์สไตน์และกลศาสตร์ควอนตัมของแมกซ์ พลังค์อันโด่งดังในต้นศตวรรษที่ 20 นั้น  คนไทยส่วนใหญ่รู้จักแต่ทฤษฎีสัมพัทธของไอน์สไตน์ ไม่ค่อยรู้จักกลศาสตร์ควอนตัมของแมกซ์ พลังค์ เท่าไหร่นัก ในบทความนี้จึงจะเน้นทฤษฎีสัมพัทธของไอน์สไตน์เป็นหลัก

ทฤษฎีเวลา  ตามทฤษฎีของนิวตันแล้ว เวลาของจักรวาลจะคงที่ตลอดไป ไม่ขึ้นอยู่กับสิ่งใด ยกตัวอย่างเช่น เวลาในโลกเป็นเช่นใด เวลาของดาวพุธก็เป็นเช่นนั้น 

เมื่อทฤษฎีเวลาของนิวตันเข้ามาในประเทศไทย  เรื่องนรก-สวรรค์ของศาสนาพุทธได้รับผลกระทบมากที่สุด เพราะ พระพุทธเจ้าสอนว่า เวลาของสวรรค์ มนุษย์ อบายภูมิ พรหม อรูปพรหมนั้นไม่เท่ากัน

การที่เวลาของแต่ละแห่งของโลกมนุษย์ โลกสวรรค์ไม่เท่ากันจึงเป็นความไม่สมเหตุสมผล (Irrationality) ของวิทยาศาสตร์เก่า จึงเป็นสาเหตุหลักที่เรื่องนรก-สวรรค์ของศาสนาพุทธ กลายเป็นเรื่องเหลวไหลในยุคที่ผ่านมา

องค์ความรู้เรื่องเวลาของวิทยาศาสตร์เก่าแบบกลไก/แยกส่วน/ลดทอนนั้น ทำลายความเชื่อเรื่องนรก-สวรรค์ของพุทธวิชาการเป็นจนหมดสิ้น 

คำกล่าวที่ว่า นรก-สวรรค์ไม่เป็นความจริงเพราะพิสูจน์ไม่ได้ในทางวิทยาศาสตร์จึงได้ยินได้ฟังกันโดยทั่วไป เมื่อมีใครก็ตามพูดถึงเรื่องนรก-สวรรค์ขึ้นมา

อย่างไรก็ดี  ความรู้ของฟิสิกส์ใหม่ที่ศึกษากันมาตลอดศตวรรษที่ 20 มีหลักฐานยืนยันอย่างแน่นอนว่า เวลาไม่คงที่ ขึ้นอยู่กับสถานที่ ความเร็ว และแรงโน้มถ่วง

ดังนั้น เวลาของคนแต่ละคนในโลกนี้จึงไม่เท่ากันเลย พูดให้เข้าใจง่ายๆ อีกนิดหนึ่งก็คือ นาฬิกาของแต่ละคนจะเดินด้วยความเร็วที่ไม่เท่ากัน  ขึ้นอยู่กับว่า บุคคลคนนั้นอยู่ที่ใด และกำลังเคลื่อนที่โดยความเร็วเท่าใด และอยู่ในบริเวณของแรงโน้มถ่วงใด

บางท่านอาจจะรู้สึกขัดแย้งในใจว่า ก็เวลาของทุกคนก็เท่ากัน  ทำไมผู้เขียนจึงยืนยันว่า เวลาของทุกคนไม่เท่ากัน

ผู้เขียนขออธิบายดังนี้  สูตรของทฤษฎีสัมพัทธภาพนั้น ความเร็วของแสงเป็นองค์ประกอบสำคัญของสูตร  ดังนั้น  ในการพิสูจน์ทฤษฎีสัมพัทธภาพ  จึงต้องใช้ความเร็วสูงเขามาประกอบด้วย

การที่มนุษย์แต่ละคนเคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่ช้ามากๆ เมื่อเปรียบเทียบกับความเร็วของแสง จึงทำให้การที่นาฬิกาเดินช้าเร็วกว่ากัน จึงดูไม่แตกต่างด้วยความรู้สึกนึกคิดของมนุษย์ จะต้องใช้เครื่องมือวิทยาศาสตร์ที่มีประสิทธิภาพสูงจึงจะเห็นความแตกต่าง เช่นนั้นได้

ถ้าจะกล่าวกันในทางฟิสิกส์ใหม่ก็คือ เวลากับอวกาศเป็นสิ่งเดียวกัน ไม่ได้แยกจากกันอย่างที่นิวตันเข้าใจผิด

ดังได้กล่าวมาแล้วว่า นอกจากความเร็วที่จะส่งผลให้เวลาแตกต่างกันแล้ว  แรงโน้มถ่วงก็ยังส่งผลต่อเวลาด้วย

กล่าวคือ ถ้าเราอยู่ที่แรงโน้มถ่วงสูง เวลาของเราจะช้ากว่าเวลาที่อยู่ในแรงโน้มถ่วงต่ำ สถานที่ที่แรงโน้มถ่วงสูงก็คือพื้นดิน  สถานที่ที่โรงโน้มถ่วงต่ำก็คือ วงโคจรของดาวเทียม

ทฤษฎีแรงโน้มถ่วง  ตามทฤษฎีของนิวตันแล้ว นิวตันอธิบายว่า วัตถุที่มีมวลมากก็จะมีแรงดึงดูดต่อกันมาก และระยะทางที่ใกล้กัน ก็จะส่งผลให้มีแรงดึงดูดต่อไปมากขึ้นไปด้วย 

ทฤษฎี แรงโน้มถ่วงของนิวตันดังกล่าว มีจุดอ่อนเมื่อใช้คำนวณวงโคจรของดาวพุธ กล่าวคือ เมื่อนำไปใช้ คำนวณวงโคจรของดาวพุธ ปรากฏว่า ค่าที่ได้รับจากการคำนวณผิดพลาดไป 17 วัน  เมื่อเปรียบเทียบ กับการจดบันทึกที่ได้จากการสังเกตการณ์มาเป็นเวลานับร้อยๆ ปีของนักดาราศาสตร์

ตามทฤษฎีของนิวตัน การที่ดวงดาว ดาวเคราะห์ต่างๆ ไม่แยกกระจัดกระจายออกจากกันไป หรือไม่ถูกถึงจนยุบเข้ามาหากันก็เป็นเพราะแรงโน้มถ่วงดังกล่าวมีความพอเหมาะ พอดี ซึ่งในปัจจุบันนักฟิสิกส์ใหม่พบว่า ทฤษฎีดังกล่าวของนิวตันไม่ถูกต้อง

องค์ความรู้ของฟิสิกส์ใหม่พบว่า การที่จักรวาลของเราไม่แยกตัวกันออกไป หรือยุบตัวรวมลงมาก็เป็นเพราะว่า จักรวาลโค้ง ไม่ใช่เป็นเพราะแรงดึงดูดระหว่างกันของดาวต่างๆ

จะเห็นได้ว่า ฟิสิกส์ใหม่จะอธิบายหรือชี้ให้เห็นจุดอ่อนหรือข้อบกพร่องของวิทยาศาสตร์เก่า ได้อย่างชัดแจ้ง  จุดอ่อนของทฤษฎีแรงโน้มถ่วงของนิวตัน ก็คือ อธิบายวงโคจรของดาวพุธ ได้ไม่ถูกต้อง กล่าวคือ ใช้การคำนวณแบบนิวตัน คำนวณผิดไป 17 วัน

เมื่อทฤษฎีสัมพัทธภาพอธิบายได้ถูกต้อง นิวตันจึงล่วงกระป๋องไป

ในองค์ความรู้ของฟิสิกส์ใหม่เองต่างก็รู้ว่า ทฤษฎีหลักทั้ง 2 ทฤษฎีต่างก็มีจุดอ่อนเช่นเดียวกัน 

จุดอ่อนของทฤษฎีสัมพัทธภาพของไอน์สไตน์ก็คือ อธิบายในระดับอะตอมไม่ได้ แต่กลศาสตร์ควอนตัมอธิบายได้ จุดอ่อนของกลศาสตร์ควอนตัมก็คือ อธิบายสภาวการณ์ในระดับจักรวาลไม่ได้ แต่ทฤษฎีสัมพัทธภาพของไอน์สไตน์อธิบายได้

จะเห็นได้ว่า การที่ฟิสิกส์ใหม่สามารถโค่นล้มวิทยาศาสตร์เก่าแบบนิวตันลงไปได้ ก็เป็นเพราะ การอธิบาย  กล่าวคือ ฟิสิกส์ใหม่สามารถอธิบายปรากฏการณ์ธรรมชาติได้ดีกว่า เป็นจริงกว่า และครอบคลุมกว่าวิทยาศาสตร์เก่าแบบนิวตัน

ประเด็นเรื่อง การอธิบาย นี้ พุทธวิชาการไม่ค่อยกล่าวถึง ทั้งๆ ที่เป็นประเด็นสำคัญมากในทางวิทยาศาสตร์ เป็นหัวใจหลักอันสำคัญยิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ยึดถือกันตลอดมา

ในการวิพากษ์วิจารณ์หรือเสนอแนะแนวความคิดของผู้เขียนในบทความนี้ ผู้เขียนจึงจะใช้ประเด็นเรื่อง คำอธิบายเป็นหลัก   ปรากฏการณ์ธรรมชาติใดๆ ก็ตาม ถ้าองค์ความรู้ A อธิบายได้ดีกว่า ก็ต้องยอมรับว่าองค์ความรู้ A นั้นถูกต้องไว้ก่อน  จนกว่าจะมีองค์ความรู้อื่นมาอธิบายได้ดีกว่านั้น...

บทความในชุดเดียวกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น